ฝึกเรียกจำนวน คน สัตว์ สิ่งของ ในประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐานให้ถูกหลัก

เรียนรู้ภาษาอังกฤษ basic(พื้นฐาน) ฝึกพูดประโยค จำนวน คน สัตว์ สิ่งของ ว่าควรพูดอย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องง่ายๆที่เรามักจะใช้ผิดหรือชอบลืมอยู่บ่อยๆ เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับ เวลาพูดสิ่งที่มีหลายอย่างในภาษาอังกฤษ สิ่งที่เราไม่สามารถนับได้ในภาษาอังกฤษ การตั้งคำถาม ตอบคำถาม “What”  ประโยคคำถามที่ใช้บ่อย (What) มารยาทในห้องเรียน ทบทวนพยัญชนะในภาษาไทย พยัญชนะไทยที่มี การอ่านออกเสียงเหมือนกัน พยัญชนะไทยที่มี การอ่านออกเสียงคล้ายกัน พร้อมแบบฝึกหัด


เรียนวิชาภาษาอังกฤษ คาบเช้า


การเรียก จำนวน คน สัตว์ สิ่งของ ในภาษาอังกฤษ

การเรียก จำนวน คน สัตว์ สิ่งของ ซึ่งเป็นเนื้อหา basic ของวิชาภาษาอังกฤษ ซึ่งการเรียกในภาษาอังกฤษ จะระบุจำนวนเสมอ ตัวอย่าง คน สัตว์ สิ่งของ จำนวนหนึ่ง ในภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า a
เช่น

เด็กผู้ชาย 1 คน เรียกว่า a boy
เด็กผู้หญิง 1 คน เรียกว่า a girl
ผู้ชาย 1 คน เรียกว่า a man
ผู้หญิง 1 คน เรียกว่า a woman

หรือสัตว์ต่างๆ
นก 1 ตัว เรียกว่า a bird

การเรียงประโยค จะพูดว่า There is a …  “มี … อยู่ 1 ตัว” 
เช่น มีหมา 1 ตัว , มีแมว 1 ตัว
ตัวอย่าง
There is a dog / มีหมาอยู่ 1 ตัว
There is a cat / มีแมวอยู่ 1 ตัว

เวลาที่เราจะเรียก คน สัตว์ สิ่งของ ที่มันมีแค่จำนวนหนึ่ง เราจะใช้ a นำหน้า
แต่มันจะมีคำศัพท์บางคำที่เวลาออกเสียงเป็นตัว “อ ในภาษาไทย”  เช่น apple 
จากปกติที่เราใช้ a นำหน้า เราก็จะใช้ an แทน เพื่อให้มันพูดง่ายขึ้น เช่น an apple
เราอาจจะเคยเรียนกันมาว่า an ใช้กับคำศัพท์ที่ขึ้นต้นด้วย A E I O U แต่มันไม่เสมอและไม่จำเป็นต้องจำขนาดนั้น ถ้าเจอคำศัพท์ที่ออกเสียง”อ ในภาษาไทย” ให้ใช้ an ได้เลย เช่น an hour

เวลาพูด เราไม่ได้พูดถึงสิ่งๆเดียวเสมอไป มันอาจจะมี “หลายคน หลายสิ่ง” ซึ่งในภาษาอังกฤษการที่บอกว่ามีหลายคน คำศัพท์คำนั้น คำเรียกของ คน สัตว์ สิ่งของ นั้นๆ เขาจะเติม s เข้าไปข้างหลัง เช่น 
บอกจำนวนแล้วเติม s เสมอ
เด็กผู้หญิง 2 คน เรียกว่า 2 girls
แมว 4 ตัว เรียกว่า 4 cats
รถ 5 คัน เรียกว่า 5 cars

พูดเป็นประโยค “There are … s” เช่น
There are 2 girls.
There are 4 cats.
There are 5 cars.

มันจะมีคำศัพท์บางคำ ที่ไม่ได้เติมแค่ s แต่จะเติมเป็น es แทน 
จะมีอยู่ไม่กี่คำที่ท้ายเสียงมีการออกเสียงต่อ เช่น a box , a sandwich คือมีเสียงซูซซ ต่อท้ายเหมือนเสียงตัว s อยู่แล้ว
ฉะนั้นเวลาจะบอกว่า มีหลายอัน จึงเติม es แทน s เช่น เช่น 3 boxes , 3 sandwiches

นอกจากนั้น มันก็จะมีคำศัพท์บางคำที่ไม่ต้องเติม s มีอยู่ไม่กี่คำ คือ fish , man ,  woman
ถ้ามี 1 จะพูดว่า a fish , a man ,  a woman

ถ้ามีมากกว่า 1 จะพูดว่า 2 fish (ใส่จำนวนด้านหน้า) , 2 men (ใส่จำนวนด้านหน้า เปลี่ยนเสียงจาก man เป็น men) , 2 woman (ใส่จำนวนด้านหน้า เปลี่ยนเสียงจาก woman เป็น women)
ไม่ต้องเติม s
There are 2 fish.
There are 2 men.
There are 2 women.

ข้างต้น เราได้เรียน เรียกคำศัพท์ คน สัตว์ สิ่งของ ที่เราสามารถนับได้ว่ามีจำนวนเท่าไหร่
แต่มันมีบางสิ่งบางอย่าง ที่เราไม่สามารถนับได้ เช่น นํ้าซึ่งเป็นของเหลว เรานับไม่ได้
ในภาษาอังกฤษ เขาจะเรียก สิ่งที่บรรจุแทน หรือ สถานะที่มันเป็นอยู่ โดยใช้ “of” เช่น
นํ้า 1 แก้ว พูดว่า a glass of water.
นํ้า 2 ถ้วย พูดว่า 2 cups of water.

นอกจากสิ่งที่เราไม่สามารถนับได้ มันก็จะมี ของที่เราเหมือนจะนับได้ แต่ก็นับไม่ได้ เช่น เค้ก เพราะมันไม่ได้มีขนาดที่แน่นอน มีทั้งเค้กก้อนเล็ก เค้กก้อนใหญ่ บาง หนา
เช่น
ถ้ามีเค้กอยู่ 1 ชิ้น พูดว่า a pice of cake.
ถ้ามีเค้กอยู่ 1 ปอนด์ a pound of cake.
ถ้ามีขนมปังอยู่ 2 แผ่น พูดว่า 2 slices of bread.

บทเรียนที่เราเรียนผ่านมาข้างต้น เราพอจะสามารถเรียกจำนวนสิ่งของต่างๆและบอกจำนวน รวมถึงพูดเป็นประโยค
There is a …
There are … s.
a … of … 

เรื่อง การตั้งคำถาม ตอบคำถาม “What is this?”

เมื่อเราไม่รู้ว่าสิ่งๆนี้มันคืออะไร เราก็จะตั้งคำถาม? ถ้าในภาษาไทยเราจะตั้งคำถามว่า นี่คืออะไร? แต่ในภาษาอังกฤษให้เรียงคำถามใหม่เป็น “อะไรคือสิ่งนี้?” → What is this?. เช่น
คำถาม What is this?. “อะไรคือสิ่งนี้?”
คำตอบ This is a car. “สิ่งนี้คือรถ 1 คัน”

ถ้า เป็นหลายสิ่งหลายอย่าง ในภาษาอังกฤษ ให้พูดว่า “อะไรคือสิ่งเหล่านี้” What are these?. เช่น
คำถาม What are these?. “อะไรคือสิ่งเหล่านี้”
คำตอบ These are cars. “สิ่งเหล่านี้คือรถ”

แล้วถ้าเราอยากจะถามว่า เช่น สิ่งนี้คือรถหรือป่าว?
เราจะก็จะสลับเป็น Is this a car?.
คำตอบจะเป็น Yes. This is a car. /หรือ No. This is not a car.

ถ้าเราจะบอกลักษณะของมันไปด้วย เช่น รถคันนี้สีอะไร? รถเหล่านี้สีอะไร?
เราจะพูดง่ายๆ โดยการ ใส่ลักษณะของมัน เข้าไป 
เช่น
This is a car. /เติมสีเข้าไป เป็น This is a blue car.
These are cars. / เติมสีเข้าไป เป็น These are blue cars.

ยังมีลักษณะอย่างอื่น เช่น ขนาดต่างๆ สูง ตํ่า เล็ก ใหญ่
เช่น
This is a big car.
This is a small car.
These are small cars.
These are big cars.

ถ้าเราอยากจะพูดอีกแบบ โดยเจาะจงลักษณะไปเลย เช่น รถคันนี้มันใหญ่ ,รถเหล่านี้มันใหญ่
เช่น
This car is big.
These cars are big.

บทเรียนนี้ คือการเรียกว่า อะไรคือสิ่งนี้? อะไรคือสิ่งเหล่านี้ สิ่งนี้ใช่อันนี้หรือป่าว?
What is this?.
What are these?.
Is this a car?.

This is a (ลักษณะของมัน) …
This … is (ลักษณะของมัน)
These are (ลักษณะของมัน) …s
These …s are (ลักษณะของมัน)


เรียนวิชาภาษาอังกฤษ คาบบ่าย


ก่อนหน้านี้เราเรียน การเรียก จำนวน คน สัตว์ สิ่งของ ต่างๆและเรียงประโยคให้ถูกต้อง แต่เพื่อเป็นการตอกยํ้าความรู้เข้าไปอีก ช่างบ่ายนี้เราจะมาเรียน ประโยคคำถาม (What) ต่างๆ ในภาษาอังกฤษ ที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน เพื่อให้เราสื่อสารได้อย่างคล่องแคล่วและมั่นใจมากขึ้น

ประโยคคำถาม (What) ต่างๆ ในภาษาอังกฤษ

ประโยค / คำอ่านคำแปล
What do you do? / วอท ดู ยู ดูคุณทำอาชีพอะไร
What is this? / วอท อิส ดีสนี่คืออะไร
What’s the matter? / วอทช เดอะ เมทเทอร์มีเรื่องอะไร
What is it? / วอท อิส อิทคืออะไร
What would you like to order? / วอท วูด ยู ไลค์ ทู ออร์เดอร์คุณต้องการสั่งอะไร
What time is it? / วอท ไทมุ อิส อิทตอนนี้เวลาอะไร
What does he / she look like? / วอท ดาส ฮี / ชี ลุค ไลค์เขาหน้าตาเป็นยังไง
What would you like? / วอท วูด ยู ไลค์คุณต้องการอะไร
What’s the weather like? / วอทส เดอะ เวทเทอะ ไลค์อากาศเป็นยังไง
What do you need? / วอท ดู ยู นีดคุณต้องการอะไร
What do you mean? / วอท ดู ยู มีนคุณหมายความว่ายังไง
What are you up to? / วอท อาร์ ยู อัพ ทูช่วงนี้คุณทำอะไรอยู่
What do you think? / วอท ดู ยู ธิงค์คุณคิดว่ายังไง
What’s up? / วอทส อัพสบายดีมั้ย
What are you doing? / วอท อาร์ ยู ดูอิงคุณกำลังทำอะไรอยู่
What is your hobby? / วอท อิส ยัวร์ ฮอบบี่งานอดิเรกของคุณคืออะไร
What did you say? / วอท ดีด ยู เซคุณพูดว่าอะไรนะ
What’s your name? / วอทซ ยัวร์ เนมคุณชื่ออะไร
What happened? / วอท แฮพเพ่นดุเกิดอะไรขึ้น
What is your job? / วอท อิส ยัว จอบคุณทำงานอะไร
What are you good at? / วอท อาร์ ยู กูด แอทคุณเก่งเรื่องอะไร
What is your type? / วอท อิส ยัวร์ ไทพ์สเปคของคุณเป็นแบบไหน
What’s the date? / วอทส เดอะ เดทวันที่อะไร
What are you doing? / วอท อาร์ ยู ดูอิงคุณกำลังทำอะไร
What time is it? / วอท ไทม์ อิท สิทเวลาเท่าไหร่
What do you want to eat? / วอท ดู ยู วอน ทู อิทคุณอยากกินอะไร
What would you like? / วอท วู้ด ยู ไลทคุณต้องการอะไร
What’s your job? / วอทซ ยัวร์ จอบคุณทำงานอะไร
What did you do yesterday? / วอท ดิด ยู ดู เยสเตอเดย์เมื่อวานคุณทำอะไร
What are you talking about? / วอท อาร์ ยู ทอล์ทกิง อะเบาท์คุณกำลังพูดถึงอะไร
What color do you like? / วอท เคาเลอ ดู ยู ไลค์คุณขอบสีอะไร
What happened? / วอท แฮพเพ่นดุ เกิดอะไรขึ้น
What do you think? / วอท ดู ยู ธิงค์คุณคิดว่ายังไง
What does this mean? / วอท ดาส ดีส มีนนี่ความหมายว่าอะไร
What do you do for work? / วอท ดู ยู ดู ฟอร์ เวิรคคุณทำงานอะไร
What is your favourite colour? / วอท อิส ยัวร์ แฟเวอรีท คัลเลอร์เธอขอบสีอะไร
What are you reading? / วอท อาร์ ยู รีดดิ่งคุณกำลังอ่านอะไรอยู่
What ประโยคคำถาม ต่างๆ ในภาษาอังกฤษ

เรียนวิชาภาษาไทย เรื่อง ทักษะด้านการฟัง การดู และการพูด (การอ่าน) พยัญชนะไทย คาบเย็น


มารยาทในห้องเรียน

มารยาทในห้องเรียน ประกอบด้วย
1. มารยาทในการฟัง
2. มารยาทในการชม(การดู)
3. มารยาทในการพูด

ตัวอย่าง ของการมี มารยาทในการฟัง และควบคู่ไปกับ มารยาทในการชม(การดู)
ในเวลาที่คุณครูหรือเพื่อนของเรากำลังพูดหน้าห้องเรียน ผู้ที่มีมารยาทในการฟังนั้น ต้องมีคุณสมบัติ
1. ฟังอย่างเรียบร้อย ตั้งใจ ตามองผู้พูด ไม่คุย ไม่เล่น
2. ไม่พูดคุยกันเอง พูดแซง พูดตะโกน ไม่นำของขึ้นมาเล่นหรือหยิบงานอื่นขึ้นมาทำ
3. ปรบมือเพื่อให้เกียรติผู้พูด / ผู้แสดง
4. ถ้ามีข้อสงสัย ให้ยกมือเพื่อขอถามเมื่อฟังจบ

นอกจาก เราจะต้องมีมารยาทในการฟัง และ มารยาทในการชม(การดู) แล้ว เราก็ต้องมีมารยาทในการพูด ด้วย
ในเวลาที่ต้องออกมาพูดหน้าชั้นเรียนมารยาทในการพูด ต้องมีคุณสมบัติ
1. เตรียมตัวให้พร้อมก่อนที่จะพูด เช่น หาความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่จะพูด และฝึกพูด

2. เมื่อพูดอยู่หน้าห้องเรียน ควรทักทายผู้ฟัง ด้วยคำพูด “สวัสดีครับ / สวัสดีค่ะ “
3. ใช้นํ้าเสียงที่นุ่มนวล ใช้ถ้อยคำที่สุภาพ เหมาะสม มีคำลงท้าย เช่น ครับ/ค่ะ
4. พูดเสียงดังฟังชัด สายตามองผู้ฟังอย่างทั่วถึง
5. “ขอโทษ” เมื่อพูดผิด “ขอบคุณ” เมื่อได้รับคำชม มีคำลงท้าย ครับ/ค่ะ ด้วย

ทบทวนพยัญชนะในภาษาไทย

พยัญชนะไทย 44 ตัว

1. ก : ก เอ๋ย กอไก่
2. ข : ข ในเล้า
3. ฃ : ฃ ของเรา
4. ค : ค เข้านา
5. ฅ : ขึงขัง
6. ฆ : ข้างฝา
7. ง : ง ใจกล้า
8. จ : จ ใช้ดี
9. ฉ : ฉ ตีดัง
10. ช : ช วิ่งหนี
11. ซ : ซ ล่ามที
12. ฌ : ฌ คู่กัน
13. ญ : ญ โสภา
14. ฎ : ฎ สวมพลัน
15. ฏ : ฏ หุนหัน
16. ฐ : ฐ เข้ามารอง
17. ฑ : ฑ หน้าขาว
18. ฒ : ฒ เดินย่อง
19. ณ : ณ ไม่มอง
20. ด : ด ต้องนิมนต์
21. ต : ต หลังตุง
22. ถ : ถ แบกขน
23. ท : ท อดทน
24. ธ : ธ คนนิยม
25. น : น ขวักไขว่
26. บ : บ ทับถม
27. ป : ป ตากลม
28. ผ : ผ ทำรัง
29. ฝ : ฝ ทนทาน
30. พ : พ วางตั้ง
31. ฟ : ฟ สะอาดจัง
32. ภ : ภ กางใบ
33. ม : ม คึกคัก
34. ย : ย เขี้ยวใหญ่
35. ร : ร พายไป
36. ล : ล ไต่ราว
37. ว : ว ลงยา
38. ศ : ศ เงียบเหงา
39. ษ : ษ หนวดยาว
40. ส : ส ดาวคะนอง
41. ห : ห ใส่ผ้า
42. ฬ : ฬ ท่าผยอง
43. อ : อ เนืองนอง
44. ฮ : ฮ ตาโต
พยัญชนะไทย 44 ตัว

พยัญชนะไทยที่มี การอ่านออกเสียงเหมือนกัน

ออกเสียงพยัญชนะหน้า “ขอ” เหมือนกัน
ข ขอ-ไข่
ฃ ขอ-ขวด

ออกเสียงพยัญชนะหน้า “คอ” เหมือนกัน
ค คอ-ควาย
ฅ คอ-ฅน
ฆ คอ-ระฆัง

ออกเสียงพยัญชนะหน้า “ชอ” เหมือนกัน
ช ชอ-ช้าง
ฌ ชอ-เชอ

ออกเสียงพยัญชนะหน้า “ยอ” เหมือนกัน
ญ ยอ-หยิง
ย ยอ-ยัก

ออกเสียงพยัญชนะหน้า “ดอ” เหมือนกัน
ฎ ดอ-ชะ-ดา
ด ดอ-เด็ก

ออกเสียงพยัญชนะหน้า “ตอ” เหมือนกัน
ฏ ตอ-ปะ-ตัก
ต ตอ-เต่า

ออกเสียงพยัญชนะหน้า “ถอ” เหมือนกัน
ฐ ถอ-ถาน
ถ ถอ-ถุง

ออกเสียงพยัญชนะหน้า “ทอ” เหมือนกัน
ฑ ทอ-มน-โท
ฒ ทอ-ผู้-เท่า
ท ทอ-ทะ-หาน
ธ ทอ-ทง

ออกเสียงพยัญชนะหน้า “นอ” เหมือนกัน
น นอ-หนู
ณ นอ-เนน

ออกเสียงพยัญชนะหน้า “พอ” เหมือนกัน
พ พอ-พาน
ภ พอ-สำ-เพา

ออกเสียงพยัญชนะหน้า “สอ” เหมือนกัน
ศ สอ-สา-ลา
ษ สอ-รือ-สี
ส สอ-เสือ

พยัญชนะไทยที่มี การอ่านออกเสียงคล้ายกัน

ออกเสียงพยัญชนะ คล้ายกัน (ต้องระวังให้ดี)

ถ ถอ-ถุง
ท ทอ-ทะ-หาน

ฉ ฉอ-ฉิ่ง
ช ชอ-ช้าง
ฌ ชอ-เชอ

ซ ซอ-โซ่
ศ สอ-สา-ลา
ษ สอ-รือ-สี
ส สอ-เสือ

ผ ผอ-ผึ้ง
พ พอ-พาน
ภ พอ-สำ-เพา

ฝ ฝอ-ฝา
ฟ ฟอ-ฟัน

ร รอ-เรือ
ล ลอ-ลิง
ฬ ลอ-จุ-ฬา

ห หอ-หีบ
ฮ ฮอ-นก-ฮูก

ข ขอ-ไข่
ฃ ขอ-ขวด
ฆ คอ-ระฆัง
ค คอ-ควาย
ฅ คอ-คน


แบบฝึกหัด คาบสุดท้าย


แบบฝึกหัด หลังเรียน

1.) การเรียก คน สัตว์ สิ่งของ 1 จำนวน ในภาษาอังกฤษเราจะใช้คำว่าอะไรหน้าคำศัพท์นั้น ?
2.) ถ้าเราจะพูดประโยคว่า “มี … อยู่ 1 ตัว” ในภาษาอังกฤษเราจะพูดว่าอะไร ?
3.) เราก็จะใช้ an นำหน้าคำศัพท์นั้น คำศัพท์นั้นต้องมีลักษณะใด ? 
4.) เราเรียก คน สัตว์ สิ่งของ ที่มีจำนวนมากกว่า 1 แบบเจาะจงจำนวน เราจะพูดอย่างไร และพูดเป็นประโยคอย่างไร?
5.) คำศัพท์ที่เติม es แทน s ต่อท้าย คำศัพท์นั้นมีลักษณะอย่างไร?
6.) คำศัพท์ใดที่ไม่ต้องเติม s ลงท้าย ?
7.) สิ่งที่เรา ไม่สามารถนับเป็นจำนวนได้ เช่น นํ้า ในภาษาอังกฤษ เราจะมีวิธีนับอย่างไร? และเราพูดเป็นประโยคว่าอย่างไร?
8.) สิ่งที่มี ขนาดไม่แน่นอน แต่นับเป็นจำนวนได้ ในภาษาอังกฤษ เราจะพูดเป็นประโยคว่าอย่างไร?
9.) ถ้าเราจะถาม “อะไรคือสิ่งนี้?” ในภาษาอังกฤษเราจะพูดว่าอย่างไร?
10.) ถ้าเราจะถาม “อะไรคือสิ่งเหล่านี้” ในภาษาอังกฤษเราจะพูดว่าอย่างไร?
11.) ในขณะที่เรากำลังมองท้องฟ้าแล้วเห็นนก 1 ตัว ถ้าเพื่อนพูดประโยค “What is this?” กับเรา เราควรตอบว่าอะไร?
12.) ในขณะที่เรากำลังมองภูเขาแล้วมองไปเห็นแต่ต้นไม้เต็มไปหมด ถ้าเพื่อนพูดประโยค “What are these?” กับเรา เราควรตอบว่าอะไร?
13.) ก่อนที่เราจะออกไปพูดหน้าเวที เราต้องปฎิบัติตัวอย่างไรก่อนออกไปพูด และขณะที่พูดควรทำตัวอย่างไร ถึงได้ชื่อว่าเป็นผู้มารยาทในการพูด?
14.) พยัญชนะไทยใด ออกเสียงพยัญชนะ คล้ายกัน (ที่ต้องระวังให้ดี)?


เฉลย

1.) ในภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า a เช่น
เด็กผู้ชาย 1 คน เรียกว่า a boy
นก 1 ตัว เรียกว่า a bird

2.) จะพูดว่า There is a …  
เช่น มีหมา 1 ตัว
ตัวอย่าง
There is a dog / มีหมาอยู่ 1 ตัว

3.) คำศัพท์บางคำที่เวลาออกเสียงเป็นตัว “อ ในภาษาไทย”  เช่น apple (แอ๊ เผิ่ล)
จากปกติที่เราใช้ a นำหน้า เราก็จะใช้ an แทน เพื่อให้มันพูดง่ายขึ้น เช่น an apple

4.) บอกจำนวนแล้วเติม s เสมอ เช่น เด็กผู้หญิง 2 คน เรียกว่า 2 girls  ถ้าจะพูดเป็นประโยค “There are … s” เช่น
There are 2 girls.

5.) คำศัพท์นั้นมีการออกเสียงต่อท้ายเหมือนเสียงตัว s อยู่แล้ว คือมีเสียงซูซซ ต่อท้าย เช่น a box , a sandwich ฉะนั้นเวลาจะบอกว่า มีหลายอัน จึงเติม es แทน s เช่น เช่น 3 boxes , 3 sandwiches

6.) คำศัพท์บางคำที่ไม่ต้องเติม s มีอยู่ไม่กี่คำ คือ fish , man ,  woman
ถ้ามี 1 จะพูดว่า a fish , a man ,  a woman

ถ้ามีมากกว่า 1 จะพูดว่า 2 fish (ใส่จำนวนด้านหน้า) , 2 men (ใส่จำนวนด้านหน้า เปลี่ยนเสียงจาก man เป็น men) , 2 woman (ใส่จำนวนด้านหน้า เปลี่ยนเสียงจาก woman เป็น women)

7.) สิ่งที่เรานับไม่ได้ในภาษาอังกฤษ เขาจะเรียก สิ่งที่บรรจุแทน หรือ สถานะที่มันเป็นอยู่ โดยใช้ “of” เช่น
นํ้า 1 แก้ว พูดว่า a glass of water.
นํ้า 2 ถ้วย พูดว่า 2 cups of water.

8.)  ของที่ไม่ได้มีขนาดที่แน่นอน  เราจะเรียก ขนาดของสิ่งนั้นเข้าไปแทน โดยใช้ “of” เช่น มี 1 ชิ้น หรือมี 1 ปอนด์
เช่น
ถ้ามีเค้กอยู่ 1 ชิ้น พูดว่า a pice of cake.
ถ้ามีเค้กอยู่ 1 ปอนด์ a pound of cake.
ถ้ามีขนมปังอยู่ 2 แผ่น พูดว่า 2 slices of bread.

9) “What is this?”

10.) “What are these?” 

11.) This is a bird. “สิ่งนี้คือนก 1 ตัว”

12.) These are trees. “สิ่งเหล่านี้คือต้นไม้”

13.) 1. เตรียมตัวให้พร้อมก่อนที่จะพูด เช่น หาความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่จะพูด และฝึกพูด
2. เมื่อพูดอยู่หน้าห้องเรียน ควรทักทายผู้ฟัง ด้วยคำพูด “สวัสดีครับ / สวัสดีค่ะ “
3. ใช้นํ้าเสียงที่นุ่มนวล ใช้ถ้อยคำที่สุภาพ เหมาะสม มีคำลงท้าย เช่น ครับ/ค่ะ
4. พูดเสียงดังฟังชัด สายตามองผู้ฟังอย่างทั่วถึง
5. “ขอโทษ” เมื่อพูดผิด “ขอบคุณ” เมื่อได้รับคำชม มีคำลงท้าย ครับ/ค่ะ ด้วย

14.) พยัญชนะไทยที่มี การอ่านออกเสียงคล้ายกัน มีอยู่ 8 กลุ่ม (ออกเสียงต้องระวังให้ดี)

ถ ถอ-ถุง
ท ทอ-ทะ-หาน

ฉ ฉอ-ฉิ่ง
ช ชอ-ช้าง
ฌ ชอ-เชอ

ซ ซอ-โซ่
ศ สอ-สา-ลา
ษ สอ-รือ-สี
ส สอ-เสือ

ผ ผอ-ผึ้ง
พ พอ-พาน
ภ พอ-สำ-เพา

ฝ ฝอ-ฝา
ฟ ฟอ-ฟัน

ร รอ-เรือ
ล ลอ-ลิง
ฬ ลอ-จุ-ฬา

ห หอ-หีบ
ฮ ฮอ-นก-ฮูก

ข ขอ-ไข่
ฃ ขอ-ขวด
ฆ คอ-ระฆัง
ค คอ-ควาย
ฅ คอ-คน


📒 อ้างอิง | แหล่งข้อมูล | แหล่งที่มา | ผู้สอน | ผู้เรียบเรียง:รักเรียน ruk-learn.com

ผู้สอนวิชาภาษาอังกฤษ คาบเช้า
→ สอนโดย : ติวเตอร์จาก Unfox English | จากบทเรียน คอร์สภาษาอังกฤษพื้นฐาน ตั้งแต่เริ่มต้นใหม่ : Lesson 1

ผู้สอนวิชาภาษาอังกฤษ คาบบ่าย
→ สอนโดย : ติวเตอร์จาก PANG English | จากบทเรียน ฝึกภาษาอังกฤษ 30 นาที ประโยคคำถามต่างๆ ประโยคใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน

ผู้สอนวิชาทั่วไป วิชาภาษาไทย เรื่อง ทักษะด้านการฟัง การดู และการพูด (การอ่าน) พยัญชนะไทย คาบเย็น
→ สอนโดย : ครูโอ๋ สื่อการเรียนการสอน | จากบทเรียน สื่อการเรียนการสอน ภาษาไทย ป.1 เรื่อง ทักษะด้านการฟัง การดู และการพูด (การอ่าน) พยัญชนะไทย